
เลขศาสตร์ เป็นศาสตร์ว่าด้วยตัวเลขที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะสามารถนำไปปรับใช้กับเลขที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเราได้ เช่น เลขทะเบียนรถ การตั้งชื่อ รวมถึงหมายเลขโทรศัพท์ ที่มีการถอดค่าของตัวเลข ในศาสตร์แขนงต่างๆ เช่น เลขโหราศาสตร์ไทย จีน เป็นต้น
หลักเลขศาสตร์
เลขศาสตร์ เป็นศาสตร์การตั้งชื่อที่ได้รับความนิยมอีกศาสตร์หนึ่ง ซึ่งจะมีการนำเอา อักษร สระ และ วรรณยุกต์ ต่างๆในภาษาไทย และตัวอักษรภาษาอังกฤษมาถอดเป็นตัวเลข 9 ตัวคือ ตัวแทนของดาวพระเคราะห์นั่นเอง
ตารางค่าตัวเลขสำหรับอักษรไทย
ค่าเป็นตัวเลข 1 ตัวอักษร ก, ด, ท, ถ, ภ, ฤ / สระ อา, อุ, อำ / วรรณยุกต์ ไม้เอก
ค่าเป็นตัวเลข 2 ตัวอักษร ข, ช, บ, ป, ง / สระ เอ, แอ, อู / วรรณยุกต์ ไม้โท
ค่าเป็นตัวเลข 3 ตัวอักษร ฆ, ฑ, ฒ, ต, ฃ /วรรณยุกต์ ไม้จัตวา
ค่าเป็นตัวเลข 4 ตัวอักษร ค, ธ, ร, ญ, ษ / สระ โอ,อะ, อิ, ไม้หันอากาศ
ค่าเป็นตัวเลข 5 ตัวอักษร ฉ, ณ, ฌ, น, ม, ห, ฮ, ฎ, ฬ / สระ อึ
ค่าเป็นตัวเลข 6 ตัวอักษร จ, ล, ว, อ, / สระ ใอ
ค่าเป็นตัวเลข 7 ตัวอักษร ศ, ส, ซ, / สระ อี, อือ
ค่าเป็นตัวเลข 8 ตัวอักษร ย, พ, ฟ, ผ, ฝ / สระ ไม้ไต่คู้
ค่าเป็นตัวเลข 9 ตัวอักษร ฏ, ฐ / สระไอ , การันต์
การดูชื่อ-นามสกุล ตามหลักเลขศาสตร์
หลักการของเลขศาสตร์มีอยู่ว่า ใช้ชื่อที่มีอักษรนำหน้าเป็นอักษรให้คุณแก่ชะตาชีวิตโดยดูดาวที่ส่งผลที่ดี เป็นดาวดีส่งเสริมเจ้าชะตา ( หลักทักษา ) และเมื่อรวมเลขแล้วจะได้เลขดี มีมงคลแก่ตัว เป็นแรงหนุนชีวิตที่ดี ( หลักเลขศาสตร์ ) แต่ที่สำคัญเลขที่ได้นั้นต้องสอดคล้องกับภูมิชะตาของบุคคลนั้น ๆ ด้วย ( โหราศาสตร์ ) จึงจะได้ผลอย่างแท้จริง
ในการคำนวณนั้นให้นำตัวอักษรในชื่อและนามสกุลแตกออกเป็นอักษรโดยคำนวณแยกกัน จากนั้นจึงนำค่าที่ได้มารวมกันอีกครั้งจะได้ค่ากำลังดาว 3 ส่วน คือ
1. ค่ากำลังดาวของชื่อตัว
2. ค่ากำลังดาวของนามสกุล
3. ผลรวมค่ากำลังดาวของชื่อตัวและนามสกุล
การดูความหมาย นำเลขอักษรมาบวกกันเมื่อได้ผลรวมของชื่อและนามสกุลแล้ว
1. ให้ดูความหมายของเลขศาสตร์ 1 – 109 ก็จะทราบว่าชื่อของเรานั้นดีตามหลักเลขศาสตร์หรือไม่
2. ให้ดูความหมายของหมายเลข 1 – 100 หากผลรวมที่ได้มีค่ามากกว่า 100 ขึ้นไป ให้คำนวณดังนี้
2.1 ถ้าเลขตั้งแต่ 101 – 109 ให้ตัดเลข 0 ตรงกลางออก แล้วอ่านเฉพาะเลขตัวหน้าและเลขตัวหลัง เช่น เลข 104 ได้ค่ากำลังดาวเท่ากับ 14 หรือเลข 109 ได้ค่ากำลังดาวเท่ากับ 19 เป็นต้น
2.2 ถ้าเลขตั้งแต่ 110 ขึ้นไป ให้อ่านเฉพาะ 2 ตัวท้าย เช่น เลข 115 ได้ค่ากำลังดาวเท่ากับ 15 หรือเลข 124 ได้ค่ากำลังดาวเท่ากับ 24 เป็นต้น
ตัวอย่าง
ปิยปราชญ์ = 2 + 4 + 8 + 2 + 4 + 1 + 2 + 4 + 9 = 36
วัจนะประสิทธิ์ = 6 + 4 + 6 + 5 + 4 + 2 + 4 + 4 + 7 + 4 + 1 + 4 + 4 + 9 = 64
ปิยปราชญ์ วัจนะประสิทธิ์ = 36 + 64 = 100
ในการอ่านค่าที่ได้จากการคำนวณตาม หลักเลขศาสตร์นั้นให้แบ่งออกเป็น 3 ส่วนเช่นเดียวกันโดยมีอิทธิพลแตกต่างกัน ดังนี้
ชื่อตัว มีอิทธิพล 40% บ่งบอกพื้นดวงชะตา นิสัยใจคอ และโชควาสนา
นามสกุล มีอิทธิพล 20% บ่งบอกพื้นฐาน วงศ์ตระกูล ทุนทรัพย์ กรรมเก่า
ชื่อตัว + นามสกุล มีอิทธิพล 40% บ่งบอกภาพรวม ของชีวิต สุขทุกข์ ลาภยศ การงาน
การดูเลขทะเบียนรถ
วิธีที่ 1 การดูหมายเลขทะเบียนรถ
1. แปลงค่าหมวดตัวอักษร 2 ตัวด้านหน้า แล้วนำมาบวกกับหมายเลข 4 ตัวหลัง
2. ได้ผลรวมแล้วดูความหมายตามหลักเลขศาสตร์ ให้ได้กลุ่มหมายเลขที่ให้คุณ เช่น 14, 15, 19, 24 และอื่น ๆ
3. ควรหลีกเลี่ยงหมวดตัวอักษรกาลกิณีและเลขกาลกิณี เช่น คนเกิดวันอาทิตย์ไม่ควรมีเลข 6 และไม่ควรมีตัวอักษร ศ ษ ส ห ฬ ฮ
4. หากหลีกเลี่ยง หมวดตัวอักษรกาลกิณีและเลขกาลกิณีไม่ได้ ไม่ควรให้เลขกาลกิณีเป็นเลขตัวสุดท้าย และให้ยึดหลักเลขศาสตร์เป็นหลัก

ค่าตัวอักษรที่แปลงได้เป็นตัวเลข
ก ด ถ ท ภ ฤ = 1
ข บ ป ง ช = 2
ต ฑ ฒ ฆ = 3
ค ธ ร ญ ษ = 4
ฉ ณ ฌ น ม ห ฮ ฎ ฬ = 5
จ ล ว อ = 6
ซ ศ ส = 7
ย ผ ฝ พ ฟ = 8
ฏ ฐ = 9
เลขและอักษรกาลกิณีที่ควรเลี่ยง
เกิดวันอาทิตย์ เลข 6 อักษร ( ศ ษ ส ห ฬ ฮ )
เกิดวันจันทร์ เลข 1 อักษร ( อ )
เกิดวันอังคาร เลข 2 อักษร ( ก ข ค ฆ ง )
เกิดวันพุธกลางวัน เลข 3 อักษร ( จ ฉ ช ซ ฌ ญ )
เกิดวัน พุธกลางคืน เลข 5 อักษร ( บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม )
เกิดวันพฤหัส เลข 7 อักษร ( ด ต ถ ท ธ น )
เกิดวันศุกร์ เลข 8 อักษร ( ย ร ล ว )
เกิดวันเสาร์ เลข 4 อักษร ( ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ )
หมายเหตุ : เกิดวันพุธกลางวัน ( เวลาเกิด 06.00 – 17.59 น. ) / เกิดวันพุธกลางคืน ( เวลาเกิด 18.00 – 05.59 น.)
ตัวอย่าง หมายเลขทะเบียน ศว 1212
– แปลงค่าตัวอักษร ศ=7, ว=6 ได้ผลรวม หมวดตัวอักษร คือ 7 + 6 = 13
– ผลรวมหมายเลข 4 ตัวหลัง คือ 1 + 2 + 1 + 2 = 6
– นำผลที่ได้มาบวกกันได้ดังนี้ 13 + 6 = 19 ให้ดูความหมายเลขศาสตร์ 19 ตัวอย่าง หมายเลขทะเบียน ศศ 5959
– แปลงค่าตัวอักษร ศ=7, ศ=7 ได้ผลรวม หมวดตัวอักษร คือ 7 + 7 = 14
– ผลรวมหมายเลข 4 ตัวหลัง คือ 5 + 9 + 5 + 9 = 28
– นำผลที่ได้มาบวกกัน ได้ดังนี้ 14 + 28 = 42 ให้ดูความหมายเลขศาสตร์ 42
วิธีที่ 2 การนำเฉพาะตัวเลขที่อยู่หลังตัวอักษรทั้งหมดมารวมกันแล้วอ่านคำทำนาย หรือทำให้เหลือเลขตัวเดียวแล้วอ่านคำทำนาย
ตัวอย่าง กก 4562 เอา 4 + 5 + 6 + 2 รวมกันได้ 17 เอา 1 + 7 ได้ 8 คือ ดาวราหูหรือวันพุธกลางคืน
ความหมายของดาว 8 ถ้าเป็นดาวคู่มิตรกับวันเกิดของท่านก็จะดี แต่ถ้ามีปัญหาก็จะเสียหาย
ความหมายของเลข 17 คุ้มโทษคุ้มภัยได้ มักจะมีสติปัญญาแตกฉาน เข้าใจอะไรได้ง่าย สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้อย่างรวดเร็วแต่ชีวิตมักจะพบอุปสรรค และความยุ่งอยากอยู่บ่อย ๆ มักจะถูกผู้ใหญ่กดและให้โทษ ทำให้ชีวิตขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่แน่นอน บุคคลในเลข 17 นี้จะมีตำแหน่งสูงแต่มักจะตกจากตำแหน่งได้ง่าย หรือไม่ก็มักจะถูกแย่งตำแหน่งหน้าที่การงานมักจะไม่ยั่งยืนถาวร เมื่อยามรุ่งโรจน์ต้องอย่าเหลิงเมื่อถึงคราวตกต่ำก็อย่าเสียใจจนเกินกว่าเหตุ ทำใจให้สงบถือว่าเป็นกฎแห่งกรรม เลข 17 มักจะผิดหวังชอกช้ำในเรื่องความรักเสมอเลข 17 รวมกันได้ 8 คือพระราหู มักจะเป็นคนหูเบาเชื่อคนง่ายค่อนข้างดื้อรั้นเอาแต่ใจตัวเอง เวลาหลงอะไร ก็จะหลงแบบมาก ๆ ลืมหูลืมตาไม่ขึ้น แถมยังขี้น้อยใจอีกต่างหาก
กลอนดาวคู่มิตร “อาทิตย์ (๑) เป็นมิตรกับครู (๕) จันทร์โฉมตรู (๒) คู่พุธ (๔) นงเยาว์ ศุกร์ (๖) ปากหวานอังคาร (๓) รับเอา ราหู (๘) กับเสาร์ (๗) เป็นมิตรแก่กัน”
กลอนข้างต้นแบ่งดาวคู่มิตร คือ เลข ๑ เป็นมิตรกับเลข ๕ , เลข ๒ เป็นมิตรกับเลข ๔, เลข ๓ เป็นมิตรกับเลข ๖ และเลข ๗ เป็นมิตรกับเลข ๘
กลอนอีกบทหนึ่งเป็นดาวคู่ศัตรูดังนี้ “อาทิตย์ (๑) ผิดกับอังคาร (๓) พุธ (๔) อันธพาลวิวาทกับราหู (๘) ศุกร์ (๖) กับเสาร์ (๗) เป็นเสี้ยนศัตรู จันทร์ (๒) กับครู (๕) เป็นอริต่อกัน”
หมายถึง เลข ๑ เป็นศัตรูกับเลข ๓, เลข ๒ เป็นศัตรูกับเลข ๕, เลข ๔ เป็นศัตรูกับเลข ๘ และเลข ๖ เป็นศัตรูกับเลข ๗

ความหมายของเลขตามตำราของไทยโบราณ ใช้คำลงท้ายแค่ 2 ตัวหลัง
11 = ความสามารถ เก่งกาจ ฉลาด
22 = อายุมั่นขวัญยืน สุขภาพร่างกายแข็งแรง
33-66 = เงินทองไหลมาเทมา มีโชคลาภไม่ขาดสาย
44-88 = ความรัก มีแต่คนรัก ผู้ใหญ่อุปถัม เสน่หา
55 = ค้าขายดี กำไรงาม
77 = เลขจักพรรดิ์ ความยิ่งใหญ่ อำนาจ บารมี
99 = ความรุ่งเรือง เจริญก้าวหน้า อุดมสมบูรณ์
00 = ไม่มีที่สิ้นสุด อยากทำไรก็สมใจหวัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น