ศาสตร์ตัวเลข , เลขศาสตร์ , เลขพยากรณ์ ศาสตร์พลังตัวเลขจะมีต้นกำเนิดเป็นลูกเป็นหลานของโหราศาสตร์ไทย เน้นยำว่า ต้องเป็นโหราศาสตร์ไทยเท่านั้น เพราะถ้าเป็นต่างชาติจะไม่ได้แม่นยำตามแนวทางนี้
ศาสตร์พลังตัวเลขมาจากโหราศาสตร์ไทยแต่ก็มีความแตกต่างเพราะว่า ศาสตร์พลังตัวเลขที่กำลังพัฒนา รายละเอียดของศาสตร์พลังตัวเลข ย่อมไม่เหมือนกับบิดาก็ซึ่งเป็นต้นตระกูลโหราศาสตร์ไทย
ศาสตร์ก็คือความรู้ ตัวเลขก็คือตัวเลขที่เราใช้นับใช้เรียน ในมุมของผมคือเราจะเอาพลังความรู้เกี่ยวกับตัวเลขมาใช้ ถ้าท่านมีพื้นฐานคณิตศาสตร์ 1+1 =2 แต่สำหรับคนที่มีพื้นฐานโหราศาสตร์จะรู้ว่า 1 แทนด้วยพลังของพระอาทิตย์ แทนด้วยพลังงานความร้อนไฟฟ้า ถ้าเป็นคนก็คือเป็นคนที่มั่นใจ คนที่เป็นผู้นำ ลักษณะนิยามมาจากโหราศาสตร์จะอธิบายพลังมาจากตัวเลขได้
ความน่าทึ่งของศาสตร์พลังตัวเลข ที่ได้รับการเก็บสถิติมามากมายพบว่า ในเบอร์มือถือของคนที่ใช้เลข 1 หลายๆ ตัว เช่น เลข 11 , 111 มี 1 เบิ้ล ลักษณะเลข 1 จะเด่น มีลักษณะของดาวอาทิตย์ ก็จะมีความเป็นผู้นำสูง แต่ก็จะเลือดร้อนควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ยาก มั่นใจตัวเอง คิดว่าตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง อันนี้เป็นการมองพลังตัวเลขในรูปแบบของพลังงาน
เมื่อเราเข้าใจว่า เลขที่ดี พลังงานที่ดีคืออะไร เราจึงเลือกที่จะปรับเปลี่ยนเอาพลังงานที่ไม่ดีเคลียร์ใหม่ปรับใหม่ให้เป็นเลขที่ดี เช่น เลข 1 ซึ่งเป็นเลขผู้นำอารมณ์ร้อน ถ้าจะให้ได้ผลดีต้องประกบกับเลข 5 กลายเป็น 15 หรือ 51 เลขนี้จะเจอในคนที่เรียนหนังสือเก่ง เป็นครูบาอาจารย์ในมหาวิทยาลัย เรียนปริญญาโทปริญญาเอก อยู่ในเกรดเฉลี่ยแนวหน้า หรือเรียนได้เกรดนิยม
15 51 เลขนี้มักจะเป็นผลลัพธ์ของคนเหล่านี้ มีสติปัญญาเป็นเลิศ มีความสนใจใคร่รู้ในการศึกษาใฝ่รู้ใฝ่เรียน เมื่อเราก็เอาเลขที่ดีไปใส่ในเบอร์มือถือของเด็กหรือคนที่ต้องการสมองสติปัญญา ผลปรากฏว่า สติปัญญา สมาธิ ผลการเรียนดีขึ้น
ในเบอร์มือถือ 10 ตัว เราจะดูแค่ 7 ตัว แล้วใน 7 ตัว ต้องไม่มีเลขเสียหรือเลขอันตราย ซึ่งตรงนี้ผมได้จัดทำเป็นตารางเลขสีเขียวคือเลขปลอดภัย และตารางเลขสีแดงคือกลุ่มตัวเลขอันตราย รายละเอียดเหล่านี้จะได้นำมาอธิบายให้ฟังในบทความต่อๆ ไป ซึ่งถ้าเรานำเลขสีเขียวทั้งหมดมาใส่ในเบอร์มือถือและใส่เลข 15 51 ลงไปด้วย จะส่งผลให้ด้านการเรียนมีสมาธิมีการใฝ่เรียนใฝ่รู้ บังเกิดขึ้นกับผู้ใช้คนนั้น อันนี้เป็นความรู้เบื้องต้นของศาสตร์พลังตัวเลขเท่านั้น
ที่มา:sanook
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น